สามารถติดตามเนื้อหาก่อนหน้าได้ทาง EP.1 , EP.2 และ EP.3 มาต่อกันด้วยอันดับที่เหลือกับเกม Steam ที่มียอดซื้อและได้รับความนิยมสูงสุด เกมแนวเปิดโลกที่จะมามอบความอิสระในการผจญภัยให้ผู้เล่นอย่างไร้ขีดจำกัด สำหรับการจัดอันดับเกมน่าเล่น รีวิวเกมโหด สุดมันส์ ยังมีให้เลือกชมกันอีกมากมายทางเว็บไซต์ KUBET และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปรับชมกันต่อได้เลยกับ
25 เกม Steam ที่มียอดซื้อและได้รับความนิยมสูงสุด พร้อมลิงก์ดาวน์โหลด EP.4
อันดับที่ 16 Cyberpunk 2077: Phantom Liberty
วิดีโอเกมเล่นตามบทบาทที่พัฒนาโดย CD Projekt RED ภาคเสริมสำหรับ Cyberpunk 2077 (2020) จะมานำเสนอเขตใหม่และแนวภารกิจใหม่ เรื่องราวตั้งอยู่ในจักรวาลไซเบอร์พังก์ดิสโทเปีย เช่นเดียวกับ Cyberpunk 2077: Ultimate Edition ซึ่งผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็นทหารรับจ้างที่ต้องช่วยเหลือประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาคนใหม่ ที่เครื่องบินตกในย่าน Dogtown ที่ผิดกฎหมาย โดยเกมสามารถเล่นได้หลากหลายแพลตฟอร์มทั้ง Windows PC, PlayStation 5, Xbox Series X และ Series S ราคาเกมในระบบ Steam อยู่ที่ 832.61 บาท
อันดับที่ 17 Path of Exile
วิดีโอเกมเล่นตามบทบาทแอ็กชันเล่นฟรีที่พัฒนาและเผยแพร่โดย Grinding Gear Games เรื่องราวได้กล่าวถึงโลกแฟนตาซีอันมืดมน ที่ซึ่งรัฐบาลของประเทศเกาะ Oriath เนรเทศผู้คนไปยังทวีป Wraeclast ซึ่งเป็นทวีปที่พังทลายแล้ว อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของเทพเจ้าโบราณมากมาย เพื่อควบคุมการเนรเทศ ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นเป็นหนึ่งในคลาสของตัวละครทั้งเจ็ดคลาสได้แก่ Marauder, Duelist, Ranger, Shadow, Witch, Templar และ Scion
จากนั้นผู้เล่นจะได้รับมอบหมายให้ต่อสู้เพื่อกลับไปยัง Oriath และเพื่อเอาชนะเทพเจ้าโบราณ ผู้เล่นจะต้องเผชิญหน้ากับความชั่วร้ายอันยิ่งใหญ่ในระหว่างการเดินทางด้วย
(สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการเกมจากทั่วโลกได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
อันดับที่ 18 Monster Hunter World: Iceborne
ภาคเสริมที่พัฒนาและเผยแพร่โดย Capcom สำหรับเกมแอคชั่นสวมบทบาท Monster Hunter: World ปี 2018 เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Hoarfrost Reach ระบบนิเวศอาร์กติกแบบใหม่ เช่นเดียวกับเกมหลัก Iceborne ผู้เล่นจะสวมบทบาทเป็นนักล่า สังหารหรือดักจับสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่แบบเดี่ยวหรือร่วมมือกับผู้เล่นคนอื่นได้เช่นกัน โดย Hoarfrost Reach กล่าวกันว่าเป็นหนึ่งในแผนที่ที่ใหญ่ที่สุดที่สร้างขึ้นโดยทีมผู้สร้าง ซึ่งผู้เล่นจะได้พบกับสิ่งมีชีวิตทั้งใหม่และเก่าที่จะกลับมาอีกครั้ง ราคาเกมอยู่ที่ 383.95 บาท
อันดับที่ 19 Call of Duty®: Warzone™
วิดีโอเกมแบทเทิลรอยัลที่เล่นฟรี พัฒนาโดย Raven Software และ Infinity Ward และเผยแพร่โดย Activision รองรับการเล่นที่หลากหลายทั้ง PlayStation 4, Windows และ Xbox One โดยตัวเกมเป็น ส่วนหนึ่งของ Call of Duty: Modern Warfare ในปี 2019 และ เชื่อมโยงกับ Call of Duty: Black Ops Cold War ในปี 2020 และ Call of Duty: Vanguard ด้วย สำหรับผู้เล่นในระบบออนไลน์สามารถรองรับผู้คนได้มากถึง 150 คน
มีโหมดเกมหลักสองโหมด นั่นคือ Battle Royale และ Plunder Warzone ผู้เล่นสามารถใช้เงินซื้อสถานที่ใหม่หรือสลับระหว่างคลาสที่ปรับแต่งเองได้ รวมถึงการซื้อสกิลเพิ่มเติมก็สามารถซื้อได้เช่นกัน นับเป็นภาคที่สองในแฟรนไชส์ Call of Duty ต่อจากโหมด “Blackout” ของ Call of Duty: Black Ops 4 Warzone แตกต่างจาก Black Ops 4 ตรงที่ลดการพึ่งพาอุปกรณ์ที่สวมใส่ได้ และส่งเสริมการสะสมอุปกรณ์ใหม่แทน
(สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการเกมจากทั่วโลกได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
อันดับที่ 20 Darkest Dungeon® II
วิดีโอเกมเล่นตามบทบาทโร๊คไลค์ที่พัฒนาและเผยแพร่โดย Red Hook Studios ซึ่งเป็นภาคต่อของ Darkest Dungeon ภายในเกมมีตัวละครหลายตัวให้เลือกเล่น แต่ละตัวก็มีจุดแข็งและความสามารถเฉพาะตัวของตัวเอง ผู้เล่นสามารถสวมใส่เครื่องประดับเล็ก ๆ และไอเท็มต่อสู้ให้กับตัวละครเหล่านี้ได้ ผู้เล่นควบคุมรถม้าโดยสาร ซึ่งเป็นวิธีหลักในการเดินทางสำรวจโลกภายในเกม
เป้าหมายสูงสุดคือการไปถึงภูเขาซึ่งเป็นที่มาของความชั่วร้ายที่เข้ามาครอบงำโลก ซึ่งระหว่างทาง ผู้เล่นจะพบกับสถานที่ที่น่าสนใจและสิ่งกีดขวางบนถนนที่แตกต่างกันทำให้ผู้เล่นเข้าสู่สถานการณ์การต่อสู้ และผู้เล่นจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เนื่องจากทักษะบางอย่างไม่สามารถใช้ได้ในขณะที่ยืนอยู่ผิดจุด ราคาเกมอยู่ที่ 528.79 บาท
จบกันไปแล้วกับ 20 อันดับเกมยอดนิยมที่มียอดซื้อสูงสุดในระบบ Steam ติดตามเนื้อหาต่อไปได้ทาง EP.5 รวมถึงการเข้าถึงเกมสุดมันส์อย่างเกมเดิมพันออนไลน์บนเว็บไซต์ KUBET ที่จะมามอบทั้งความสนุกและรายได้ให้ท่านอย่างมหาศาล อีกทั้งยังเป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมายเจ้าแรกของประเทศไทย ตรวจสอบความปลอดภัยได้ด้วยระบบบล็อกเชน ระบบที่เปิดใช้อย่างกว้างขวาง เป็นที่ยอมรับเว็บไซต์ยอดนิยมจากทั่วโลก