รีวิวเกม “Disco Elysium The Final Cut” ความจริงอันดำมืดที่ซ่อนอยู่ เนื้อหาเกมที่น่าสนใจมาพร้อมกับการออกแบบภาพแบบสีน้ำมัน ทำให้เกมนี้โดดเด่นไม่เหมือนใคร เกมนี้จะสนุกและน่าเล่นขนาดไหนตาม KUBET มาดูได้เลยครับ
Disco Elysium
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2019 โดยจะมีอยู่เกมหนึ่งที่สามารถก้าวผ่านกระแสวิจารณ์ก่อนที่เกมจะเปิดตัวด้วยซ้ำว่าเป็นเกมที่ไม่น่าเกมไม่มีอะไรให้น่าติดตามคือก็คือเกม Disco Elysium The Final Cut ที่ได้ลบคำสบประมาทและได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเกมอย่างรางวัลThe Game Award 2019 ในปีนั้น ซึ่งไม่ได้มีแค่รางวัลเดียวเกมนี้ยังไม่รับการเสนอชื่อเข้าชิงถึง 4 สาขาด้วยกัน ซึ่งหลังจากเกมนี้ถูกปล่อยออกมาให้เล่นมีรีวิวมากมายว่ามันคือเกมที่สุดยอดไปเลย
เกม Disco Elysium The Final Cut ได้พัฒนาและเผยแพร่โดย ZA/UM เกมนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเกมในยุค Infinity Engine โดยเฉพาะ Planescape: Torment เขียนและออกแบบโดยทีมงานที่นำโดยนักประพันธ์ชาวเอสโตเนีย Robert Kurvitz และนำเสนอรูปแบบศิลปะที่มีพื้นฐานมาจากภาพวาดสีน้ำมันพร้อมดนตรีโดยวงดนตรีจากอังกฤษ Sea Power นั่นเอง อะไรที่ทำให้เกมนี้เป็นที่น่าสนใจขนาดนี้ ตามมาดูกันได้เลย
เนื้อเรื่องDisco Elysium
เกม Disco Elysium The Final Cut จะเล่าเรื่องราวออกมาผ่านนักสืบหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ในช่วงการพักฟื้นตัวการอุบัติเหตุในสถานที่แห่งหนึ่ง หลังจากที่เขามีอาการความจำเสื่อมร่วมด้วยจากการได้รับบาดเจ็บในครั้งนั้น แต่ด้วยเหตุการณ์และเหตุผลบางอย่างนักสืบหนุ่มคนนี้กลับต้องมายุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เลวร้ายและเกี่ยวกับการเชื่อมโยงไปถึงการฆาตกรรม จนต้องสืบสวนว่าความจริงที่เกิดขึ้นคืออะไร พร้อมกับฟื้นความทรงจำของตัวเองไปด้วย – BY KUBET
โดยต้องชื่นชมเกมนี้เป็นอย่างมากที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวและบรรยากาศในเกมออกมาได้อย่างเข้มข้นและไม่มีความรู้สึกขัดใจใดๆเลย ไร้รอยต่อ ของเส้นเรื่อง เป็นเกมที่เหมือนกับการดูหนังดีๆเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ ฉากคัตซีนเองก็มีความสนุกและตื่นเต้นไม่ต่างกันเป็นเกมที่ไม่อยากให้มันจบเลยทีเดียวโดยเนื้อเรื่องหลักมีเวลาเพียงแค่ 20 ชั่วโมงเท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเกมนี้มีลักษณะแผนที่เป็นแบบ Open World ที่สามารถย้อนกลับมาเล่นได้เรื่อยๆ
เกมเพลย์
สำหรับเกมเพลย์ ของเกม Disco Elysium The Final Cut โดยนิยามกันว่าเป็นเกมแนวRPG Open World (เกมอินดี้) ที่ใช้รูปแบบการเกมผ่านบทสนทนาสักส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าจะเรียกว่าเป็นเกมRPG แต่เกมนี้ไม่มีการต่อสู้แต่อย่างใด ตัวเกมจะเน้นการสำรวจสิ่งต่างๆเพื่อหาเบาะแสต่างๆในการไขคดี ซึ่งในทุกๆบทสนทนาจะมีผลต่ออย่างหลายในเกมไม่ว่าจะเป็นการเลือกคำตอบ หรือการกระทำต่างๆที่เราได้เลือกทำต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ล้วนแต่จะส่งผลถึงตอนจบทั้งนั้น
โดยผู้เล่นจะมีเครื่องมือสำหรับการเล่นมากมาย อย่างผสมผสานและจับคู่มากกว่า 24 ทักษะที่สามารถไขปริศนาได้ รวมทั้งการแต่งตัวโดยมีเสื้อผ้าให้เลือกมากกว่า 80 ตัว ใช้เครื่องมือต่างๆถึง 14 ชิ้นเช่น ปืน ไฟฉาย เป็นต้น หรือกระทั่งสารที่ออกฤทธิ์ต่อประสาทถึง 6 ชนิดเพื่อให้ผู้ร้ายพูดความจริง โดยมีบทจบให้คุณได้เลือกเองถึง 60 ความคิด อีกด้วยเรียกได้ว่าเล่นยังไงก็ไม่มีเบื่ออย่างแน่นอน
การออกแบบที่โดดเด่นของเกม
เกมDisco Elysium The Final Cut ออกแบบงานภาพออกมาได้น่าประทับใจเป็นอย่างมากด้วยการสร้างงานศิลป์โดยใช้รูปแบบของสีน้ำมัน ทำให้การสื่อสารกับผู้เล่นนั้นภาพจะออกมามีความฟุ้งเหมือนความฝัน ในขณะเดียวกันผู้พัฒนาเลือกที่จะใช้สีโทนร้อน ทำให้ผู้เล่นรู้สึกถึงความแห้งแล้ง ความอึดอัด การไม่ชอบมาพากลของตัวละครในเกม เชื่อเลยว่าใครที่ชอบงานภาพ Art ไม่เหมือนใคร ต้องหลงรักเกมนี้อย่างแน่นอนครับ
จบไปแล้วสำหรับรีวิวเกม “Disco Elysium The Final Cut” ความจริงอันดำมืดที่ซ่อนอยู่ เป็นอีกเกมที่อยากแนะนำให้เล่นไม่ต้องเชื่อว่ามันสนุกเพราะได้รับรางวัล แต่อยากให้เปิดใจเล่นเพื่อจะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆจากเล่นนี้ดูครับ แต่สำหรับใครที่คิดว่าเกมนี้มันตึงเกินไปก็สามารถเข้ามาหาเกมคลายเครียดอื่นๆได้ที่ KUBET ได้เลยครับ