ในโลกของเกมแนวแข่งรถหนึ่งในภาคที่ถูกยกย่องว่าเป็นตำนานและยังคงเป็นที่รักของ แฟนเกม ทั่วโลกคงหนีไม่พ้น Need for Speed: Underground 2 (NFS: Underground 2)
ซึ่งเป็นหนึ่งในเกมที่สื่อถึงยุคทองของเกมแข่งรถในช่วงต้นยุค 2000 ด้วยกราฟิกที่ทันสมัยในตอนนั้น การออกแบบเมืองที่เปิดกว้าง และความหลากหลายในการปรับแต่งรถ ทำให้มันกลายเป็นเกมที่หลายๆ คนยังคงอยากเล่นอีกครั้งในเวอร์ชันที่อัปเกรดขึ้นมา
ในปัจจุบัน แม้ว่าตัวเกมจะยังคงสามารถเล่นได้ในเวอร์ชันเก่าบนแพลตฟอร์มต่างๆ แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนรู้สึกหวังลมๆ แล้วยังคงรอคอยคือการรีเมคหรือการนำเกมนี้กลับมาในยุคสมัยใหม่
การตอบสนองจากแฟนๆ
เมื่อพูดถึงการรีเมคเกมเก่าหรือการปรับปรุงกราฟิกในยุคปัจจุบัน คำถามที่มักเกิดขึ้นคือ ทำไมค่ายเกมใหญ่ๆ อย่าง EA ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของซีรีส์ Need for Speed ถึงไม่ทำการรีเมค Underground 2 ด้วยเอนจิ้น Unreal Engine 5 ที่ทันสมัยและสามารถยกระดับกราฟิกได้อย่างมหาศาล?
โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยีที่ใช้ในการสร้างเกมในปัจจุบันได้พัฒนาไปไกลมาก
ซึ่ง Unreal Engine 5 ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีความสามารถในการสร้างโลกเสมือนที่สมจริงอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งในด้านแสง เงา และรายละเอียดต่างๆ
อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้เล่นได้ตอบสนองความหวังนี้ด้วยการนำเอาเกมที่รักไปสร้างใหม่ด้วยตัวเอง
แม้ว่า EA หรือทีมพัฒนาอย่าง Criterion Games จะไม่ได้ให้ความสนใจในการรีเมคเกมนี้ในตอนนี้ แต่ทีมงานจาก 2Unreal5Underground
กลับยื่นมือเข้ามาทำสิ่งที่หลายคนฝันถึง นั่นคือการรีเมค Need for Speed: Underground 2 ด้วย Unreal Engine 5 ซึ่งเป็นหนึ่งในเอนจิ้นที่กำลังมาแรงและถูกใช้ในการสร้างเกมใหญ่ๆ ในยุคปัจจุบัน
โปรเจ็กต์ของกลุ่มผู้เล่น: 2Unreal5Underground
โปรเจ็กต์นี้คือความฝันของกลุ่มผู้เล่น NFS: Underground 2 ที่ถูกพัฒนาโดยทีมงานเพียงคนเดียว ภายใต้ชื่อว่า 2Unreal5Underground โดยทีมพัฒนาโปรเจ็กต์นี้ได้ทำการสร้างสรรค์รีเมคของ NFS: Underground 2 โดยใช้ Unreal Engine 5
ซึ่งเป็นเอนจิ้นที่มีความสามารถในการสร้างกราฟิกที่ล้ำสมัยและให้ความรู้สึกที่สมจริงมากยิ่งขึ้น
ทีมพัฒนานี้ได้ปล่อยเดโมของเกมออกมาให้ผู้เล่นได้ลองเล่นกันฟรีๆ และสามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน Discord ของโปรเจ็กต์นี้
แม้ว่าจะเป็นโปรเจ็กต์ที่พัฒนาโดยทีมงานเพียงคนเดียว ซึ่งย่อมมีข้อจำกัดในเรื่องของทรัพยากรและเวลาที่ใช้ในการพัฒนา
แต่การนำ Unreal Engine 5 มาประยุกต์ใช้ก็ยังทำให้ผลลัพธ์ของเกมนั้นน่าประทับใจ แม้ว่าภาพกราฟิกอาจจะไม่สามารถเทียบเคียงกับเกมที่พัฒนา
โดยทีมงานขนาดใหญ่ที่มีงบประมาณมหาศาลได้ แต่ก็สามารถสะท้อนความคิดถึงของแฟนๆ ที่อยากเห็นเกมนี้ในมุมมองใหม่
แฟนเกม เดิมพันไม่พลาดไปกับความบันเทิงที่เชื่อถือได้ เพราะได้รับการรับรองจากหน่วยงานสากล
กราฟิกและประสบการณ์การเล่น
การใช้ Unreal Engine 5 ในการพัฒนาโปรเจ็กต์นี้ทำให้กราฟิกของ NFS: Underground 2 ได้รับการปรับปรุงในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่การออกแบบแสงและเงาที่สมจริงขึ้น
ไปจนถึงการเพิ่มรายละเอียดในสิ่งแวดล้อมและตัวรถ ความสมจริงในแสงและการสะท้อนของน้ำหรือพื้นผิวต่างๆ ช่วยให้โลกของเกมนี้ดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกราฟิกในเวอร์ชันเดิมที่ออกมาในปี 2004 ซึ่งแม้จะเป็นเกมที่มีความสวยงามในเวลานั้น แต่เมื่อเทียบกับกราฟิกในยุคปัจจุบันก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการดูเก่าไปบ้าง
การปรับปรุงในแง่ของกราฟิกนั้นไม่เพียงแค่การอัปเกรดความสวยงามเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงประสบการณ์การเล่นที่ดีกว่าเดิมด้วย
ความละเอียดที่เพิ่มขึ้นในทุกรายละเอียด เช่น การออกแบบเมืองที่สมจริง การเคลื่อนไหวของรถที่ลื่นไหลและมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น ช่วยให้การขับขี่ใน Underground 2 มีความสนุกและน่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
แม้ว่าจะเป็นแค่เดโม แต่ก็ทำให้หลายคนรู้สึกถึงความเป็นไปได้ในการที่ EA อาจจะต้องมองดูโปรเจ็กต์นี้และตัดสินใจที่จะนำมันมาทำเป็นเกมที่เสร็จสมบูรณ์
ความคาดหวังและแรงบันดาลใจ
เหตุผลที่ทำให้โปรเจ็กต์นี้ได้รับความสนใจอย่างมากก็เพราะว่า Need for Speed: Underground 2 ถือเป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในซีรีส์ Need for Speed หลายคนยังคงประทับใจในความหลากหลายของรถที่สามารถปรับแต่งได้
รวมถึงการแข่งในเมืองที่กว้างขวางและอิสระมากกว่าเกมแข่งรถในยุคนั้น ซึ่งให้ความรู้สึกแตกต่างจากการแข่งในสนามปิดแบบเกมแข่งรถทั่วไป การปรับแต่งรถทั้งในด้านเทคนิคและด้านสไตล์ก็เป็นอีกจุดเด่นที่ทำให้กลุ่มผู้เล่นหลายคนยังคงคิดถึง
การที่กลุ่มผู้เล่นมารวมตัวกันเพื่อพัฒนาโปรเจ็กต์นี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความรักในเกมที่ชื่นชอบเท่านั้น แต่ยังเป็นการสะท้อนถึงความไม่พอใจที่ EA หรือทีมพัฒนาในปัจจุบันยังไม่ตัดสินใจทำการรีเมคเกมนี้ในรูปแบบที่ทันสมัย
การที่ EA ไม่ให้ความสนใจกับการรีเมค Underground 2 เป็นสิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นโอกาสที่สูญเสียไป โดยเฉพาะเมื่อบริษัทมีทรัพยากรมากพอในการทำโปรเจ็กต์ดังกล่าว แต่กลับปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป
การที่กลุ่มผู้เล่นจาก 2Unreal5Underground ได้สร้าง NFS: Underground 2 รีเมคด้วย Unreal Engine 5 เป็นการแสดงให้เห็นถึงความหลงใหลและความรักที่มีต่อเกมนี้ แม้จะมีข้อจำกัดในแง่ของงบประมาณและทรัพยากร
แต่ก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าประทับใจและทำให้กลุ่มผู้เล่นได้สัมผัสกับความเป็นไปได้ของการรีเมคเกมในรูปแบบใหม่
แม้ว่าจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็คงช่วยคลายความคิดถึงของผู้เล่นหลายคนที่อยากเห็นเกมนี้ในเวอร์ชันที่ทันสมัยมากขึ้น บางที EA คงต้องคิดใหม่เกี่ยวกับอนาคตของ Need for Speed และให้โอกาสโปรเจ็กต์เหล่านี้ในการสร้างสรรค์สิ่งที่ แฟนเกม ต้องการ
คอลเลกชันเกมที่ครอบคลุม มีบทวิจารณ์เกมและกลยุทธ์มากมายที่นี่ รวมถึงเกม PC, เกม Xbox, เกมมือถือ, เกม PS4, เกม Steam ฯลฯ เกมต่าง ๆ กำลังรอคุณอยู่!