วงการวิดีโอเกมฮิตมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ทุกคนเคยสงสัยไหมว่าเกมมีมากมายแบบนี้ บางเกมก็มีหลายแนวซ้ำๆกัน แล้วจริงๆเกมที่ตนเองชอบมันเรียกเกมแนวไหนกันแน่นะ? เราสามารถแยกประเภทเกมอย่างไรบ้าง? ซึ่งวันนี้ KUBET รวบรวมประเภทวิดีโอเกมทั้งหมดมาให้แล้วที่นี่ ไปดูกันเลย
ต่อจาก [Part1] ที่เล่าไป 5 ประเภท คือ เกมแอคชั่น (Action Game), เกมเล่นตามบทบาท (Role-Playing Game) หรือ อาร์พีจี (RPG), เกมผจญภัย (Adventure Game), เกมปริศนา (Puzzle Game), เกมการจำลอง (Simulation Game) แต่ยังมีอีก 7 ประเภทที่ใน [Part2] นี้เราจะเล่าต่อกัน มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
ประเภทของวิดีโอเกม
6.เกมวางแผนการรบ (Strategy Game)
เป็นประเภทเกมที่แยกออกมาจากประเภทเกมการจำลอง เนื่องจากในระยะหลังเกมประเภทนี้มีแนวทางของตัวเองที่ชัดเจนขึ้น คือเกมที่เน้นการควบคุมกองทัพซึ่งประกอบไปด้วยหน่วยทหารย่อย ๆ เข้าเข้าทำการสู้รบกัน สามารถแบ่งออกย่อยๆเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
- ประเภทตอบสนองแบบทันกาล (Real Time Strategy) ผู้เล่นจะต้องแข่งกับเวลา ตัวเกมจะไม่มีการหยุดพักระหว่างรบและเวลาจะเดินไปตลอด เช่น คอมมานด์แอนด์คองเคอร์, สตาร์คราฟต์, วอร์คราฟต์
- ประเภททีละรอบ (Turn Based Strategy) ประเภทนี้ผู้เล่นมีโอกาสคิดมากกว่า เพราะจะใช้วิธีผลัดกันสั่งการทหารของตัวเองเป็นรอบ ๆ เนื้อเรืองส่วนใหญ่จะอิงประวัติศาสตร์จริงอาจจบใด้หลายแบบส่วนใหญ่ค่ายที่ทำแนวนี้จะเป็นค่าย SEGA ที่ผลิด คล้ายการเล่นหมากรุก ซิวิไลซเซชั่น, Heroes of Might & Magic, Total War ROME 2
อัพเดทข่าวสารเกมใหม่ เกมมือถือ เกมพีซี เกมSteam / Xbox / Nintendo / Play Station ได้ที่ KUBET
7.เกมกีฬา (Sport Game)
เป็นเกมจำลองกีฬาแต่ละชนิด โดยส่วนมากเกมแนวนี้จะอิงตามกติกาสากลเป็นหลัก จึงเหมาะกับผู้เล่นที่เข้าใจกฎกติกาการเล่นของกีฬานั้นๆ และจุดขายของแนวเกมกีฬาคือการนำเอาชื่อและตัวละครของนักกีฬาแต่ละคนมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นภายในเกมด้วย ทำให้ดูน่าสนใจและดึงดูดผู้เล่นที่ชื่นชอบเกมกีฬา เช่น FIFA Online 4 (ฟุตบอล) , วินนิ่งอีเลฟเว่น (ฟุตบอล) , Madden NFL (อเมริกันฟุตบอล) และ NBA LIVE (บาสเกตบอล)
8.เกมอาเขต (Arcade Game)
ส่วนใหญ่จะพบเห็นตามเครื่องเกมตู้สะมากกว่า เกมประเภทนี้จะใช้เวลาเล่นเพียงไม่นานก็สามารถจบเกมได้แล้ว (ไม่เกิน 30 นาที หรือ ไม่เกิน 1 ชั่วโมง) เป็นแนวเกมที่เน้นความเรียบง่าย มักมีเวลาจำกัดในการเล่นและบันทึกคะแนนสูงสุดเท่านั้น เพื่อให้เกิดความท้าทายดึงดูดใจให้ผู้เล่น ให้กลับมาทำลายสถิติของผู้เล่นคนก่อนๆที่เคยทำไว้
- Beat ’em up (หรือเกมแนว Brawler) คือ เกมอาเขตแบบที่เน้นการเดินตามทางไปเรื่อย ๆ เพื่อเข้าปะทะกับคู่ต่อสู้ที่อยู่ระหว่างทาง มุมมองในเกมมักจะเป็นลักษณะการมองจากด้านข้าง ทำให้ผู้เล่นมองเห็นอาวุธและไอเทมอื่น ๆ ที่อยู่บนพื้นได้อย่างชัดเจน และผู้เล่นสามารถเดินขึ้นลงได้ 8 ทิศทาง มีทั้งแบบ 2มิติ และ 3มิติ เช่นเกม Double Dragon , Golden Axe และ Final Fight เป็นต้น
- Shoot ’em up’ คือ เกมที่เน้นการควบคุมตัวละครเพื่อยิงทำลายคู่ต่อสู้จากระยะไกล มีทั้งแบบมุมมองจากด้านบนและจากด้านข้าง เช่นเกม Space Invaders, Gradius และ Contra เป็นต้น
- Rail shooters คือ เกมที่มักจะใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า “ปืนแสง” ซึ่งเป็นอุปกรณ์ควบคุมเกมที่มีรูปร่างเป็นปืน โดยผู้เล่นจะต้องยิงทำลายเป้าหมายที่ปรากฏบนหน้าจอ บางเกมเล่นได้ 1 ผู้เล่น บางเกมเล่นได้ 2 ผู้เล่น หรืออาจมากกว่านั้น เช่นเกม The House of the Dead, Time Crisis เป็นต้น
- Touch Arcade คือ เกมที่ใช้การสัมผัสหน้าจอในการเล่น ซื่งมีชนิดหน้าจอแบบ LCD หรืออินฟราเรด อย่างที่เราเห็นตามห้างเกมเซ็นเตอร์
9.เกมต่อสู้ (Fighting Game)
เป็นเกมที่เอาตัวละครสองตัวมาต่อสู้กัน เน้นโจมตีและใช้สกิลต่างๆเพื่อต่อสู้ เช่น เทคเคน, สตรีทไฟท์เตอร์, เดอะคิงออฟไฟท์เตอร์ส
อัพเดทข่าวสารเกมใหม่ เกมมือถือ เกมพีซี เกมSteam / Xbox / Nintendo / Play Station ได้ที่ KUBET
10.ปาร์ตี้เกม (Party Game)
เป็นเกมที่มีมินิเกมย่อยมากมาย โดยในแต่ละเกมก็สามารถบรรจุผู้เล่นได้หลายคน มีทั้งการแข่งขันกับผู้เล่นคนอื่น ซ่อนหา สร้างบ้าน ซึ่งจุดประสงค์หลักของเกมแนวนี้คือการสร้างคอมมูนิตี้ให้กับผู้เล่น เช่น Mario Party, Roblox
11.เกมดนตรี (Music Game)
เป็นเกมที่ใช้เสียงเพลงในการเล่นแต่ละด่าน ซึ่งผู้เล่นจะต้องทำการกดปุ่มให้ทันตามจังหวะที่เกมกำหนดไว้ ส่วนใหญ่จะเป็นปุ่มซ้าย ขวา บน ล่าง บางเกมอาจต้องใช้อุปกรณ์ประกอบในการเล่น เช่น แดนซ์ แดนซ์ เรโวลูชัน (แผ่นเต้น), Guitar Hero (กีตาร์), Karaoke Revolution (ไมโครโฟน), Rock Band (กลองชุด, กีตาร์, ไมโครโฟน)
12.เกมเพื่อการศึกษา (Game for Education)
เป็นเกมที่ส่งเสริมเพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ โดยนำเนื้อหาบทเรียนมาสร้างเป็นเกมเพื่อกระตุ้นในการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น ซึ่งมีเกมมากมายทั้งพัฒนาสมอง พัฒนาศักยภาพ รวมไปถึงอาชีพต่างๆ
นอกจากนี้วิดีโอเกมยังมีทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ เนื่องด้วยในปัจจุบันอินเตอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้ทุกสถานที่และเชื่อมต่อได้กับผู้คนทั่วโลก ทำให้เกมออนไลน์ได้รับความนิยมสูงสุด แถมยังช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆที่โรงเรียนและคนในองค์กรสถานที่ทำงานได้ด้วยเช่นกัน
และนี่ก็คือแนวเกมทั้งหมด 12 ประเภท จำไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ สามารถติดตามรับข้อมูลข่าวสารเกมมือถือ เกมSteam เกมXbox เกมพีซี เกมPlay Station ฯลฯ รวมถึงอัพเดทเกมออกใหม่ เกมในตำนาน รีวิวเกมและลุ้นเกมเดิมพันอีสปอร์ตได้ที่เว็บไซต์ KUBET ศูนย์รวมเกมอันดับ 1 ในประเทศไทย