KUBET รีวิวเกม ไฟนอลแฟนตาซี (Final Fantasy) ทั้ง 50 ภาค เกมต่อสู้ เล่นตามบทบาทสุดมันส์ที่ถูกปล่อยออกมาให้สาวกได้เพลิดเพลินกันถึง 50 กว่าภาค วันนี้เคยูจะมารีวิวภาคเด่นๆทั้งหมด 50 ภาค ทั้งเนื้อเรื่อง ความสวยงามของภาพกราฟิก ความแปลกใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในแต่ละภาคจะมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ไปรับชมกันได้กับ
ไฟนอลแฟนตาซี (Final Fantasy) ทั้ง 50 ภาค EP.1
ภาคที่ 1 ดิซซิเดีย 012: ไฟนอลแฟนตาซี Dissidia 012 Final Fantasy
เปิดตัวครั้งแรกในปี 2554 สำหรับ PlayStation Portable เป็นทั้งภาคก่อนและรีเมคของ Dissidia Final Fantasy ผู้เล่นจะได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ในภาคก่อน เนื้อหาในตอนแรกของเกมจะเน้นสงครามครั้งที่สิบสองระหว่างเทพเจ้า Chaos และ Cosmos ซึ่งได้เรียกนักรบหลายคนจากโลกคู่ขนานมาต่อสู้เพื่อพวกเขา เมื่อสิ้นสุดรอบที่ 12 เกมจะสร้างสงครามครั้งที่ 13 ขึ้นมาใหม่จาก Dissidia Final Fantasy การต่อสู้ได้รับความสามารถในการตอบโต้การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของศัตรูโดยใช้ตัวละครช่วยเหลือ ซึ่งการเดินทางยังคงใช้แผ่นที่ดั้งเดิมอยู่
ภาคที่ 2 ไฟนอลแฟนตาซี IV: เดอะ คอมพลีท คอลเลกชั่น
ภาคนี้จะได้รับการปรับปรุงของวิดีโอเกมสวมบทบาท Final Fantasy IV และ Final Fantasy IV: The After Years (2008) รวมถึงสถานการณ์ใหม่ที่เรียกว่า Final Fantasy IV Interlude ซึ่งมีฉากระหว่าง สองเกมอยู่ในเกมนี้ด้วย สำหรับ PlayStation Portable เกมถูกเผยแพร่ในปี 2554 มีกราฟิกที่ละเอียดขึ้น ใช้ CG เดียวกับ Final Fantasy IV มีการจัดเรียงเพลงประกอบใหม่ รวมถึงการเพิ่มโหมดแกลเลอรีสำหรับการชมภาพยนตร์ CG และงานศิลปะของ Yoshitaka Amano
ไฟนอลแฟนตาซี IV เป็นสถานการณ์ใหม่ที่มาพร้อมกับ The Complete Collection ผู้เล่นจะควบคุม Cecil เรื่องราวเริ่มต้นที่ปราสาทบารอนหลังจากที่เซซิลฝันถึงหนึ่งในห้องคริสตัลแชมเบอร์สก่อนจะเริ่มการผจญภัยอีกครั้ง
(ติดตามความเคลื่อนไหวของวงการเกมได้ทางเว็บไซต์ KUBET )
ภาคที่ 3 ไฟนอลแฟนตาซี ไทป์-0 Final Fantasy Type-0
เรื่องราวในไฟนอลแฟนตาซี ไทป์-0 เกิดในโลกออร์เรียนซ์ ซึ่งประกอบด้วยดินแดน 4 แห่ง ได้แก่ รัฐรูบรัม จักรวรรดิมิลิเทส สหพันธรัฐลอริแคน และราชอาณาจักรคองคอร์เดีย ดินแดนแต่ละแห่งครอบครองคริสตัลที่มีความสามารถแตกต่างกัน ทั้งสี่ดินแดนได้ปฏิบัติตามสนธิสัญญาสันติภาพที่ได้ทำไว้ร่วมกัน แต่จอมพลซิด อัลสไตน์ แห่งมิลิเทสได้กระทำการขัดต่อสนธิสัญญาดังกล่าวด้วยการส่งกองกำลังรุกรานอีกสามดินแดนเพื่อแย่งชิงพลังจากคริสตัล
มีตัวละครที่สามารถบังคับตลอดเกมทั้งหมด 14 คน ทุกคนเป็นนักเรียนชั้นเรียนที่ศูนย์ (คลาสซีโร) ที่ต้องมาช่วยกอบกู้สถานการณ์ครั้งนี้
ภาคที่ 4 ไฟนอลแฟนตาซี XIII-2 Final Fantasy XIII-2
ภาคต่อของไฟนอลแฟนตาซี XIII สำหรับเครื่องเล่นเกม เพลย์สเตชัน 3 และ เอกซ์บอกซ์ 360 การต่อสู้ในภาคนี้คล้ายคลึงกับภาค XIII แต่มีการเพิ่มนาฬิกาม็อกเพื่อเพิ่มโอกาสการโจมตีก่อน สามารถนำมอนสเตอร์เข้าเป็นพวกได้โดยใช้คริสตัลที่ตกระหว่างการต่อสู้ ในระหว่างการต่อสู้กับบอสบางตัวยังมีช่วงที่ต้องกดปุ่มต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความเสียหายแก่ศัตรู มีการเพิ่มระบบไลฟ์ทริกเกอร์ เป็นการตอบคำถามในการดำเนินเรื่อง ส่งผลไปยังการได้ไอเท็มพิเศษ อีกทั้งยังเล่นในระบบออนไลน์ได้อีกด้วย
(ติดตามความเคลื่อนไหวของวงการเกมได้ทางเว็บไซต์ KUBET )
ภาคที่ 5 ไฟนอล แฟนตาซี บริเกด Final Fantasy Airborne Brigade
สำหรับโทรศัพท์มือถือที่รองรับ Mobage คล้ายกับเกม Final Fantasy ทั่วไปที่มีโลกภายนอกและดันเจี้ยน แต่เน้นไปที่สังคม มีผู้เล่นมากมายในระบบออนไลน์ อย่างไรก็ดี สำหรับเสียงดนตรีที่ถูกมองว่ายังไม่สบายหูเท่าที่ควร มีการนำเสนองาน เรือเหาะ อุปกรณ์ และการอัญเชิญสัตว์ประหลาดตามแบบฉบับของซีรีส์ Final Fantasy รวมถึงอาชีพพื้นฐาน ได้แก่ นักสู้ พระภิกษุ โจร นักเวทย์ขาว นักเวทย์ดำ และนักเวทย์แดง
ภาคที่ 6 ทรีตริทึ่ม ไฟนอลแฟนตาซี Theatrhythm Final Fantasy
ภาคนี้เป็นวิดีโอเกมแนวเข้าจังหวะ สำหรับ Nintendo 3DS และ iOS ใช้หน้าจอสัมผัสกับเพลงต่างๆ เป็นเกมภาคต่อจาก Theatrhythm Final Fantasy: Curtain Call ผู้เล่นจะต้องควบคุมตัวละคร Final Fantasy สี่ตัว และเลือกเกมตั้งแต่ Final Fantasy ตัวแรกไปจนถึง XIII แต่ละเกมมีสามด่าน: สนาม การต่อสู้ และกิจกรรม แต่ละด่านมีกลไกของเกมที่แตกต่างกันไป เมื่อผ่านด่าน เลเวลจะอัพ
ภาคที่ 7 Final Fantasy Artniks
เกมไพ่ที่ใช้งานศิลปะ ตัวละคร และระบบการต่อสู้จากเกม Final Fantasy ผู้เล่นสามารถต่อสู้กับศัตรูและบอสเพื่อรับรางวัลและอันดับหรือมีส่วนร่วมกับผู้เล่นคนอื่น ๆในระบบออนไลน์ได้ ผู้เล่นเริ่มเกมโดยเลือกการ์ดหลัก สามารถใช้การ์ดอุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพตัวละครทุกตัวในการเล่นได้ การ์ดความสามารถยังใช้เพื่อทำให้การโจมตีแข็งแกร่งขึ้นและพลังชีวิตสูงขึ้นอีกด้วย
ภาคที่ 8 Final Fantasy All the Bravest
รูปแบบการเล่นมุ่งเน้นไปที่การขยายจำนวนตัวละครที่ผู้เล่นสามารถครอบครองได้ และปลดล็อกงานของตัวละครทั้งหมดโดยการเอาชนะศัตรูและบอส ผู้เล่นสามารถรวมตัวละครได้ถึงสี่สิบตัวในปาร์ตี้ ทว่าตัวเกมกลับไม่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีนัก เนื่องจากเนื้อหาของเกมยังขาดรายละเอียดไปมากไม่มีการปรับแต่งตัวละคร ไม่มีเรื่องราว รวมถึงการซื้อในแอปที่มีราคาแพง แม้จะทำให้หวนคิดถึงภาคเก่าๆก็ตาม
(ติดตามความเคลื่อนไหวของวงการเกมได้ทางเว็บไซต์ KUBET )
ภาคที่ 9 ไฟนอลแฟนตาซี XIV: อะเรียล์มรีบอร์น FINAL FANTASY XIV
เกมนี้ดำเนินเรื่องในโลกสมมติเอออร์เซียในช่วงเวลา 5 ปี หลังเหตุการณ์ในตอนท้ายของเกมฉบับเดิมปิดตัวลง เมื่อมังกรบาฮามุตหนีออกมาจากคุกดวงจันทร์และทำให้เกิดภัยพิบัติอัมบราลครั้งที่เจ็ดซึ่งทำลายล้างอาณาจักรเอออร์เซียไปจนเกือบหมด แต่ด้วยพรของเทพได้ช่วยให้ตัวละครผู้เล่นทั้งหลายรอดจากภัยพิบัติและข้ามเวลามายัง 5 ปีในอนาคต ในขณะที่เอออร์เซียกำลังฟื้นตัว ผู้เล่นจะต้องมีหน้าที่รับมือกับภัยพิบัติการรุกรานครั้งใหม่จากอาณาจักรการ์แลนด์ทางตอนเหนือ
ภาคที่ 10 ไลท์นิ่งรีเทิร์นส์: ไฟนอลแฟนตาซี XIII Lightning Returns: Final Fantasy XIII
เกมเล่นตามบทบาท เป็นภาคต่อของ Final Fantasy XIII-2 รวมถึงการสรุปเนื้อเรื่องของ Final Fantasy XIII และเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ย่อย Fabula Nova Crystallis ระบบการต่อสู้ที่เน้นแอ็กชัน ความสามารถในการปรับแต่งชุดของตัวละคร รวมถึงการจำกัดเวลาที่ผู้เล่นต้องขยายออกไปโดยทำภารกิจเนื้อเรื่องและภารกิจเสริมให้สำเร็จ
เรื่องราวของเกมเกิดขึ้นห้าร้อยปีหลังจากจบเกมก่อนหน้า Lightning ตัวเอกหลักของเกมภาคแรกและเป็นตัวละครหลักในภาคสอง ตื่นจากการจำศีล 13 วันก่อนโลกแตก และได้รับเลือกจากเทพ Bhunivelze ให้ช่วยเหลือผู้คนในโลกที่กำลังจะตาย รวมถึงเพื่อนเก่าด้วย
และนี่ก็คือ 10 ภาคแรกของเกม ไฟนอลแฟนตาซี ที่ถูกปล่อยออกมาให้ได้เล่นสนุกกัน แม้ว่าในบางภาคจะเป็นเพียงแค่เกมที่ถูกหยิบเอกลักษณ์บางอย่างของไฟนอลแฟนตาซีไปแต่ก็ยังจัดอยู่ในเกมชุดของไฟนอลแฟนตาซีเช่นกัน สามารถรับชมส่วนที่เหลือได้ทาง EP.2 ยังอีกหนึ่งความสนุกสุดมันส์ที่น่าติดตามไม่แพ้กันอย่างเกมเดิมพันออนไลน์บนเว็บไซต์ KUBET ที่ให้ได้รายได้และความเพลิดเพลิน อีกทั้งยังเปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย การันตีความปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์